ads by google

วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อวัยวะเพศภายใน เพศหญิง

มดลูก (Uterus) 
        มดลูกเป็นอวัยวะที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อเป็นผนังหนา ซึ่งเป็นที่ฟูมฟักการเจริญเติบโตของทารกช่วงที่อยู่ในครรภ์ โดยปกติจะมีขนาดยาว 3 นิ้ว รูปร่างคล้ายลูกแพร์ หรือ ชมพู่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2.5 –3 นิ้ว ที่บริเวณช่วงบนมีปากมดลูกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว ระหว่างตั้งครรภ์มดลูกจะขยายใหญ่ออก มดลูกแบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ ตัวมดลูก (body) และปากมดลูก หรือคอมดลูก บริเวณรอยต่อของทั้งสองส่วนคือ อิสธ์มัส (isthmus) ปากมดลูกจะไม่ไวต่อผิวสัมผัส แต่จะไวต่อการกดบริเวณปากมดลูกจะมีช่องเปิดเรียกว่า ช่องปากมดลูก (os) ภายในโพรงมดลูกจะกว้างแตกต่างกันในแต่ละส่วน ผนังมดลูกมี 3 ชั้น ชั้นนอกมีลักษณะบาง เรียกว่า เพอริมีเทรียม (perimetrium) ส่วนกลางเป็นกล้ามเนื้อที่หนา เรียกว่า มัยโอมีเทรียม (myometrium) และชั้นในมีเส้นเลือดและต่อมอยู่มากมาย เรียกว่า เอ็นโดมีเทรียม (endometrium) ผนังมดลูกชั้นในนี้เป็นส่วนสำคัญในการมีประจำเดือนและการเจริญเติบโตของตัวอ่อน (embryo) 

รังไข่และท่อนำไข่ (Ovaries and fallopian tube) 
รังไข่ มีอยู่ 2 ข้างทางปีกซ้ายและขวาของท่อรังไข่ ทำหน้าที่สร้างไข่ และผลิตฮอร์โมนเพศหญิง 2 ชนิด คือ เอสโตรเจน (estrogen) และ โปรเจสเตอโรน (progesterone) ในแต่ละเดือน รังไข่จะสร้างไข่สลับกันซ้าย-ขวา ไข่ที่สร้างขึ้นจะสุกงอมและเกิดการตกไข่ในแต่ละเดือน หากไข่ไม่ได้รับการผสมกับตัวอสุจิ ก็จะสลายตัวพร้อมกับการหลุดลอกของผนังมดลูก กลายเป็นประจำเดือน 

ในผู้หญิงที่โตเต็มวัย บริเวณผิวของรังไข่จะมีลักษณะเป็นหลุมขรุขระไม่เรียบ เนื่องจากมีไข่อยู่ภายในรังไข่ ภายในรังไข่จะมีฟอลลิเคิลหลายระยะตั้งแต่ระยะไข่อ่อนจนเป็นไข่สุก รังไข่แยกได้เป็นสองส่วน คือส่วนที่เป็นเนื้อกลาง (central medulla) และชั้นนอก (cortex) ส่วนที่พาดระหว่าง รังไข่ไปต่อกับส่วนบนของมดลูกนั้น คือ ท่อปีกมดลูก (follopian tubes) ปลายสุดของปีกมดลูกด้านที่ติดกับรังไข่จะมีลักษณะคล้ายมือ เรียกว่า ฟิมเบรีย (fimbriae) ซึ่งจะไม่ติดกับรังไข่ แต่จะอยู่รอบ รังไข่ ส่วนของท่อนำไข่ที่อยู่ติดกับฟิมเบรียนั้น เรียกว่า อินฟันดิบูลัม (infundibulum) เป็นส่วนที่หนาที่สุดของท่อนำไข่ ภายในท่อนำไข่จะเป็นรูแคบ ๆ ตลอดแนวของท่อนำไข่ ภายในจะคลุมด้วยขนอ่อน ๆ เล็ก ๆ เรียกว่า ซีเลีย (cilia) การเคลื่อนไหวของซีเลียจะทำให้ไข่เคลื่อนไหวไปตามท่อนำไข่ไปสู่มดลูก ถ้ามีการผสมของไข่กับสเปอร์มก็จะเกิดขึ้นภายในท่อนำไข่นี้และซีเลีย(ขนเล็กๆ) ก็จะเคลื่อนไหวทำให้ไข่ที่ถูกผสมแล้วเข้าไปฝังตัวในมดลูก และเจริญเติบโตเป็นทารกในครรภ์ หรือฟีตัส (fetus) ต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น